3 เดือน ลดน้ําหนัก

3 เดือน ลดน้ําหนัก

3 เดือน ลดน้ําหนัก การลดน้ำหนักอาจดูไม่ใช่เรื่องยาก แต่พอลองทำจริง ๆ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าจะปลุกแรงกายแรงใจของตัวเอง ฝึกฝนความมีวินัยทั้งเรื่องการออกกำลังกาย การใช้ชีวิต และการควบคุมปริมาณอาหารได้ ก็เล่นเอาหลายคนเหงื่อตก สิ้นหวัง และหมดแรงจะทำต่อไปตาม ๆ กัน และเชื่อได้เลยว่าทุกคนย่อมรู้ดีว่าความอ้วนไม่เพียงแต่จะเป็นตัวจุดชนวนโรคร้ายเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ทำลายภาพลักษณ์ ความมั่นใจ และยังลดโอกาสในเดินทางในสายงานบางประเภทอีกด้วย วันนี้ akibakko-storage มีเทคนิคลดน้ำหนัก และนวัตกรรมดี ๆ ที่ช่วยให้หุ่นเฟิร์มมาบอกต่อ

รวมวิธีลดความอ้วนเพื่อหุ่นสวย 3 เดือน ลดน้ําหนัก

1. หันไปบริโภคอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน

3 เดือน ลดน้ําหนัก การกินอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนเพื่อลดน้ำหนัก อ้างอิงมาจาก Prevention ที่ระบุเนื้อหาสำคัญไว้ว่า การกินอาหารสไตล์ดังกล่าวเป็นแหล่งรวมของไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก ถั่ว ปลา ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่าง ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถกินชีสหรือไวน์แดงได้ในปริมาณพอเหมาะ และจำกัดการกินเนื้อสัตว์อื่น ๆ ให้เหลือเพียงเดือนละ 1 – 2 ครั้งเท่านั้น จากการศึกษาพบว่าการกินอาหารสไตล์นี้ช่วยลดน้ำหนักได้มากถึง 5 – 10% ของน้ำหนักตัวเลยทีเดียว

2. Intermittent Fasting (IF)

ลดน้ำหนักแบบ IF เป็นการถือศีลอดหรือจำกัดเวลากินให้กับร่างกาย ส่วนใหญ่นิยมวิธีกิน 8 ชั่วโมง และอด 16 ชั่วโมง แต่หากใครต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ให้เลือกทำ IF แบบ 23/1 คือกิน 1 ชั่วโมง และอดอาหาร 23 ชั่วโมง วิธีนี้ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้จริง เพราะการอดอาหารเป็นระยะ ๆ กินเฉพาะเวลาที่จำเป็น ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้

การทำ IF
3. ออกกำลังกายให้หนักขึ้น

การออกกำลังกายอย่างหนักเป็นกิจกรรมที่ช่วยดึงพลังงานไขมันส่วนเกินออกมาใช้ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกวิธีออกกำลังกายลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับร่างกาย อายุ เพศ และสภาวะ โดยให้อัตราการเต้นของหัวใจ 130-150 ครั้งต่อนาที นาน 15-45 นาที (หรือมากกว่านั้น) ความจำเป็นในการลดน้ำหนัก สลับวิธีการออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอ 3-5 วันต่อสัปดาห์

4. หลีกเลี่ยงของหวานให้ได้มากที่สุด

แม้ว่าเครื่องดื่มที่มีรสหวานจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น อย่างไรก็ตาม เครื่องดื่มเหล่านี้มีศัตรูของการลดน้ำหนัก ซึ่งก็คือน้ำตาล งดเว้นอย่างสมบูรณ์หากเป็นไปได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เพิ่มแคลอรี่โดยไม่จำเป็นทุกวัน นอกจากนี้ยังไม่ช่วยให้อิ่มท้องอีกด้วย

5. เพิ่มเวลาเคี้ยวอาหาร

การเคี้ยวอาหารช้าๆ จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อ้างอิงจากการศึกษาของ Healthline ที่กล่าวว่าการเคี้ยวเร็วกว่าปกติ 1.5 เท่า ลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับลง 9.5%

ลดน้ำอย่างไรดี

ถ้าถามว่าลด 20 กิโลใน 3 เดือนได้ไหม? คำตอบคือ อาจเป็นไปได้ แต่ฉันจะไม่แนะนำ วิธีที่ดีในการช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้คือทำตามโปรแกรมลดน้ำหนักและค่อยๆ ลดน้ำหนัก กรุณาอย่าหักโหม เพราะนอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรมแล้ว การลดน้ำหนักที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดความเครียด อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระยะยาว

ลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีตัวช่วย

โดยวิธีลดน้ำหนักข้างต้นอาจเป็นวิธีที่ยากไปสำหรับบางคน ดังนั้นหากคุณต้องการคืนความกระชับให้หุ่น ลดน้ำหนัก หรือลดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีโปรแกรมลดความอ้วนแบบครบวงจร ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ดำเนินการทุกขั้นตอนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

1. สลายไขมันด้วยเครื่อง Indiba

สำหรับเครื่อง Indiba เป็นเทคโนโลยีที่นำเข้ามาจากประเทศสเปน มีส่วนช่วยในการสลายก้อนไขมันที่หนาแน่นใต้ผิวหนังให้เกิดการหดตัว แตกตัว และช่วยให้ร่างกายทำการเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น นอกจากนี้เครื่อง Indiba ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยยับยั้งการสร้างเซลล์ไขมันในร่างกายได้ด้วย

2. BTL Exilis Elite

อีกหนึ่งเครื่องสลายไขมัน BTL Exilis Elite ที่ใช้การทำงานของคลื่น Monopolar RF และ Continuous Ultrasound ช่วยให้การสลายไขมันและการยกกระชับผิวดีขึ้น เครื่องมือได้มาตรฐานจากประเทศอังกฤษ ช่วยสลายไขมันใต้ผิว กระชับผิว และช่วยให้ผิวหย่อนคล้อยกลับมาเฟิร์มอีกครั้ง

3. การดูดไขมันลดสัดส่วน

‘ดูดไขมัน’ (Liposuction) เป็นเทคนิคการกระชับสัดส่วน ด้วยการดูดไขมันที่ไม่ต้องการออกจากร่างกาย ช่วยให้รูปร่างดูเฟิร์มกระชับมากขึ้น สามารถทำได้หลายตำแหน่ง ทั้งบริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา ฯลฯ ซึ่งทีมแพทย์ The Skin Clinic จะเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การดูดไขมันที่ดีและปลอดภัยกับคนไข้มากที่สุด

4. Lipo Slim สลายไขมันเฉพาะจุด

Lipo Slim เทคนิคการสลายไขมันเฉพาะจุดแบบไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด แต่จะใช้วิธีการฉีดวิตามินเข้าสู่ชั้นไขมันในร่างกายแทน โดยวิตามินที่ถูกฉีดเข้าไปจะเข้าไปขัดขวางการสะสมของไขมัน เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณที่มีไขมันสะสมเป็นจำนวนมากและลดได้ยาก เช่น แก้ม, เหนียง, หน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา หรือสะโพก

5. Hifu Therary ยกกระชับหน้า

สำหรับการทำ Hifu Therary ยกกระชับหน้า จะใช้นวัตกรรม Fractionated Beam Technology เพื่อปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวน์ความเข้มข้นสูงออกมา 1000 ครั้ง/วินาที มีส่วนช่วยในการยกกระชับหน้าเรียว สลายไขมันที่แก้ม เหนียง แก้ปัญหาหนังตาตก ผิวหย่อนคล้อย และช่วยลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. IV Burn

เป็นการดริปวิตามินผิวผ่านเกล็ดเลือด ช่วยในการของการเร่งเผาผลาญไขมันในร่างกาย และยังช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ควบคุมความหิว ลดความอยากอาหาร แถมยังช่วยบล็อกน้ำตาล แป้ง และไขมันที่อยู่ในเมนูอาหารที่รับประทานเข้าไปอีกด้วย

7. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Sure

ใครเป็นกังวลเรื่องการผ่าตัด หรือกลัวเข็มฉีดยา แนะนำผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Sure กินง่าย ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ที่สำคัญยังอุดมไปด้วยสารสกัดธรรมชาติที่มีส่วนช่วยเร่งการเผาผลาญ เช่น แอล-คาร์นิทีน ฟูมาเรต, ถั่วขาว, กระบองเพชร, พริกไทยดำ, ส้มแขก, ชาเขียว ฯลฯ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Sure ยังช่วยให้น้ำหนักลดไวและกระชับสัดส่วนได้อีกด้วย

8. ปากกาลดน้ำหนัก

สำหรับปากกา ลดน้ำหนัก ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ในปากกาชนิดนี้จะมีการใช้สาร Active Ingredient Liraglutide ที่คล้ายกับฮอร์โมนควบคุมความหิวในร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อฉีดสารดังกล่าวเข้าในร่างกาย ก็จะช่วยควบคุมความหิวได้ดี รู้สึกอิ่มนานกว่าปกติ ลดความอยากกินจุกจิก แต่ที่สำคัญเพื่อให้ปากกาลดน้ำหนักได้ผลดี แนะนำให้คุมปริมาณอาหารด้วยตัวเอง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

7 วิธีออกกำลังกายภายใน 3 เดือน

ลดน้ำหนัก 3 เดือน
1. ตั้งเป้าหมาย ผอมแบบสุขภาพดี

หลายคนอาจจะตั้งเป้าหมายให้ตัวเลขน้ำหนักลดลงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้ว นอกจากตั้งเป้าหมายให้ผอม หุ่นดี น้ำหนักลดลงแล้ว ก็ควรเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ให้มาเป็น Healthy lifestyle เพื่อที่จะได้ผอมสวยแบบสุขภาพดี ยั่งยืน ไม่โยโย่ งดการลดน้ำหนักแบบผิดๆ ที่เคยทำมาก่อน เช่น การอดอาหาร

ไปร์ทบอกว่าช่วงที่ลดน้ำหนักแรกๆ เธอใช้วิธีการอดข้าวได้เป็นสัปดาห์ๆ กินแต่น้ำ เพื่อลดน้ำหนัก รวมทั้งกินยาถ่ายทุกวัน วันละ 10 เม็ด วนเวียนอยู่แบบนี้ จนอายุล่วงเลยมาถึง 36 ปี รู้สึกไม่ค่อยมีแรง หน้าโทรม ไม่มีชีวิตชีวา ไม่สดใส รูปร่างเผละ น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ หน้าท้องบวมตลอด (มารู้ตอนหลังว่า นี่คือระบบเผาผลาญพัง)

2. ปรับเปลี่ยนเวลานอน เวลาตื่น

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนมีอาการแบบนี้ คือ ตอนเช้าไม่อยากตื่นไปทำงาน มักจะรู้สึกว่า ลางานดีไหม? ไม่อยากไปทำงานเลย พอเลิกงานตอนเย็นถึงบ้านดึก กินข้าวแล้วนั่งเล่นเน็ตจนเที่ยงคืน เลยเที่ยงคืนไปก็มี กว่าจะนอนได้ พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายพัง ไม่สดชื่น

ควรปรับนาฬิกาชีวิตใหม่ ทั้งเวลานอนและเวลาตื่น คือ จากเดิมเคยตื่น 8 โมงเช้า (ทำงาน 9 โมงเช้า) เปลี่ยนเป็นตื่น 6 โมงเช้า หลังจากตื่นจะดื่มน้ำ 1 แก้วใหญ่ ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารเช้า ส่วนตอนเย็นพอกลับมาถึงบ้าน ให้ออกกำลังกาย และควรเข้านอนเวลา 23.00 น. หรือไม่ควรเกินเที่ยงคืน

3. เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

เข้าใจดีว่าการเป็นสาวออฟฟิศ ต้องนั่งทำงานหน้าจอวันละหลายชั่วโมง ไม่ค่อยมีเวลาเลือกกินอาหารมีประโยชน์ ส่วนใหญ่เลยมักจะกินข้าวแกงง่ายๆ ตามด้วยขนมถุง หนังไก่ทอด กล้วยทอด กินน้ำหวาน กาแฟ ชานม ชาไข่มุก ไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า กินผักผลไม้น้อย ควรปรับเปลี่ยนมาใส่ใจเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ งดของทอด งดของหวาน งดของมันๆ

4. คำนวณแคลอรี

หัดคำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวันในภาวะร่างกายปกติ ช่วงที่ลดน้ำหนัก ให้กินอาหารให้พลังงานอยู่ระหว่าง 1,300-1,500 กิโลแคลอรี ต่อมาในช่วงการรักษารูปร่าง ให้กินอยู่ที่ 1,500-1,600 กิโลแคลอรี

5. นำ้เปล่าสำคัญมาก ดื่มเยอะๆ

ควรดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยได้มากเรื่องการเผาผลาญ และเรื่องผิวพรรณ และในการลดนำ้หนักช่วง 2 เดือนแรก ไม่ควรมีมื้อพิเศษ (Cheat Day) ถ้ามีแล้วเดี๋ยวตบะแตก อดไม่ได้ กลายเป็นว่าที่ทำมาทั้งหมดอาจพังไม่เป็นท่า อีกอย่างคือ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ เช่น ออกงานสังคมก็ให้ดื่มได้บ้าง นานๆ ที

6. ควบคุมอาหาร 80%

ในส่วนของการเลือกอาหารการกิน ถ้ายังไม่เห็นภาพ ลองทำตามวิธีของสาวคนนี้ดู เธอหันมาทำอาหารกินเอง เพราะควบคุมแคลอรีได้ง่ายกว่า และสามารถเลือกวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพได้ด้วย อาจจะไม่ใช่อาหารคลีน 100% แต่กินแล้วไม่อ้วน

7. ออกกำลังกาย 20%

หลังจากตื่นนอนตอนเช้า 6 โมงเช้า ให้ออกกำลังกาย โดยเล่น AB หน้าท้องเป็นหลัก ประมาณ 15 นาที ส่วนตอนเย็น หลังเลิกงาน อย่าเพิ่งทานข้าว ให้ออกกำลังกายก่อนเลย 30-45 นาที เน้นช่วงขาและแขนเป็นหลัก รวมๆ ก็สัปดาห์ละ 5-6 วัน

มีอุปกรณ์ คือ ดัมบ์เบล 1 อัน ซึ่งใช้สำหรับออกกำลังกายตามคลิปต่างๆ ในโซเชียล เน้นบอดี้เวต ไม่เน้นคาร์ดิโอ แต่สำหรับคนที่น้ำหนักเยอะมากๆ แนะนำให้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ กับบอดี้เวตควบคู่กันไป ผิวหนังจะได้ไม่ย้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

กินตามกรุ๊ปเลือด o ลดน้ําหนัก

กินตามกรุ๊ปเลือด o ลดน้ําหนัก

กินตามกรุ๊ปเลือด o ลดน้ําหนัก ปัญหาของคนเลือดกรุ๊ปนี้คือ กระเพาะมีความเป็นกรดสูงสามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น

อ่านเพิ่มเติม »