ลดน้ําหนัก 2 อาทิตย์ 4 โล อยากผอมแบบเร่งด่วน อยากผอมภายใน 2-3 วัน ใครว่าทำไม่ได้ คุณทำได้ค่ะสาวๆ แต่ต้องทำถูกวิธี เพราะการลดน้ำหนักที่ถูกวิธี เราจะทำให้น้ำหนักไม่โยโย่โดยไม่เสียสุขภาพ และวันนี้ เรามีเทคโนโลยี ลดน้ำหนักเร่งด่วนใน 14 วัน ลดน้ำหนักเร่งด่วน และ ลดน้ำหนักใน 2 สัปดาห์ มาฝากกันค่ะ เป็นวิธีที่รับรองว่าไม่อันตรายและไม่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง
เปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเช้า ลดน้ําหนัก 2 อาทิตย์ 4 โล
ลดน้ําหนัก 2 อาทิตย์ 4 โล อาหารเช้าสำคัญก็จริง แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักใช่ว่าเราจะกินอะไรก็ได้ค่ะ แนะนำว่าให้กินธัญพืช 1 ถ้วยคู่กับนมอัลมอนด์ หรือโยเกิร์ตกับผลไม้ประเภทเบอร์รี่ แทนที่จะเลือกกินข้าวเหนียวหมูปิ้งหรืออาหารไขมันสูง เพราะจะช่วยให้ย่อยง่ายขึ้น
มื้อกลางวันให้เน้นอาหารโปรตีนสูง
สำหรับมื้อกลางวันแนะนำให้กินอาหารที่แคลอรีต่ำ แต่ให้โปรตีนสูงเป็นหลักค่ะ เช่น อกไก่ อาจจะกินคู่กับแตงกวาและมะเขือเทศ หรือจะเพิ่มไข่ต้ม 2 ฟอง และแครอทต้มอีกสักนิดก็ได้เช่นกัน อกไก่เป็นอาหารที่ไขมันน้อย แถมแคลอรีต่ำ อีกทั้งยังย่อยง่ายอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบสุดๆ สำหรับใครที่ไม่มีเวลาเตรียมมื้ออาหาร แต่ก็ยังอยากลดน้ำหนัก จะเลือกกินผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารที่ให้สารอาหารที่เหมาะสมอย่างบอดี้คีย์ ก็อิ่มอร่อย แถมยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย! ที่สำคัญยังอร่อยได้ไม่ซ้ำค่ะ เพราะเค้ามีด้วยกันถึง 4 รสชาติ ทั้งโกโก้ มิลค์ที กาแฟ และบานาน่า เพียงฉีกบอดี้คีย์ 1 ซอง เชคกับน้ำ ก็ดื่มแทนมื้ออาหารได้เลย
กินของว่าง 2 มื้อต่อวัน
การกินของว่างระหว่างวันจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้ทำงานอย่างเต็มที่ค่ะ แต่ของว่างที่ว่านี่ไม่ใช่ขนมขบเคี้ยวที่แคลอรีสูงนะคะสาวๆ ควรเน้นกินเป็นผลไม้ เช่น เบอร์รี่ทั้งหลาย หรือถ้าอยากหวาน อยากกินขนม ควรเลือกเป็นเจลาตินที่เป็นแบบ Sugar-Free, ธัญพืชอบกรอบ หรืออัลมอนด์ แทนค่ะ เพราะช่วยให้อิ่มอยู่ท้อง แถมไม่อ้วนด้วย!
กินอาหารเย็นที่มีแคลอรีต่ำ
อาหารเย็นถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนได้ง่ายๆ เลยค่ะ เพราะฉะนั้นควรเลือกกินอาหารเย็นที่มีแคลอรีต่ำ โดยปริมาณแคลอรีของอาหารมื้อเย็นควรน้อยที่สุดรองจากมื้อเช้า และมื้อกลางวัน คิดง่ายๆ คือ มื้อเช้าควรจะได้รับพลังงานประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 700 กิโลแคลอรี) มื้อเที่ยง 35 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 600 กิโลแคลอรี) และมื้อเย็น 25 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 500 หรือ 400 กิโลแคลอรี) และที่สำคัญควรกินมื้อเย็นก่อนเข้านอน 4-6 ชั่วโมง
ลดการกินโซเดียมให้น้อยลง
แม้ว่าเกลือและน้ำปลา หรือเครื่องปรุงทั้งหลายจะทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้น แต่การกินโซเดียมมากเกินไป จะทำให้เราตัวบวมได้ง่ายๆ ! ฉะนั้นอาหารที่เราปรุงเองควรลดเกลือหรือโซเดียมให้น้อยลง
ลดการกินน้ำตาล
เหล่าเครื่องดื่มทั้งหลายที่มีน้ำตาล ไม่ว่าะเป็นน้ำอัดลม ชานมไข่มุก หรือกาแฟ/ชาใส่น้ำตาล หรือแม้กระทั่งสารแทนความหวานต่างๆ ควรกินให้น้อยลงค่ะ เพราะน้ำตาลคือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมในที่สุด น้ำตาลจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของความอ้วนที่เห็นผลชัดมากๆ !
เพิ่มผักในทุกมื้อ
การมีระบบย่อยอาหาร การขับถ่ายที่ดี จะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลเร็วมากขึ้นค่ะ ซึ่งการเพิ่มผักใบเขียวหรือไฟเบอร์เข้าไปในทุกมื้ออาหารจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้เป็นระบบมากขึ้นด้วย ถ้าระบบย่อยดีขับถ่ายคล่อง รับรองว่าพุงแบนๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
กินอาหารที่มีเส้นใยให้มากขึ้น
นอกจากอาหารโปรตีนสูงจะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้เร็ว และช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้นแล้ว การกินอาหารที่มีเส้นใยจากธรรมชาติอย่างผักและผลไม้ ก็สามารถช่วยให้เราได้รับทั้งพลังงานและสารอาหารที่จำเป็น และยังช่วยให้เราอิ่มท้องได้นานมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้การกินผลไม้ทดแทนการกินขนมหวานๆ หรือขนมขบเคี้ยว ก็ช่วยลดปริมาณแคลอรี่ไปได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ แต่อย่าลืมเลือกกินผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำเป็นหลัก
เลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
แม้จะรีบเร่งลดน้ำหนักขนาดไหน แต่ร่างกายก็ต้องการสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งคาร์โบไฮเดรตก็เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานและจำเป็นต่อร่างกายค่ะ แนะนำให้เลือกรับกินคาร์โบไฮเดรตที่เป็นแบบเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีทบ้าง เพื่อเพิ่มพลังงาน ซึ่งคาร์บเชิงซ้อนจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในร่างกายไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน ช่วยลดความอยากอาหารได้
ทำ IF ควบคู่ไปด้วย
หากอยากลดน้ำหนักเร่งด่วน การทำ IF หรือ Intermittent Fasting ควบคู่ไปกับการคุมอาหาร การเลือกกินอาหาร ตามที่เรากล่าวมาข้างต้นก็จะช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลเร็วขึ้น โดยแนะนำการทำ Intermittent Fasting แบบ 16/8 เพราะทั้งทำได้ง่าย ไม่เหนื่อยเกินไป และสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันปกติได้เลย
กระโดดเชือกทุกวันวันละ 20 นาที
โดดเชือก เป็นวิธีออกกำลังกายที่ลดน้ำหนักได้ดีสุดๆ ค่ะ เพราะการกระโดดเชือกเพียง 15 นาที เทียบเท่ากับการวิ่งออกกำลังกาย 30 นาทีเลยล่ะ! โดยการกระโดดเชือกในแต่ละวัน แนะนำให้กระโดดครั้งละ 10 นาที วันละ 2 ครั้ง
คาร์ดิโอวันละ 20 นาที
นอกจากการกระโดดเชือกแล้ว การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออื่นๆ ยังช่วยเผาผลาญได้ดีเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนลู่วิ่ง หรือวิ่งบนถนน ทั้งนี้แนะนำให้วิ่งวันละ 20 นาทีค่ะ โดยการวิ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดมีการสูฉีด ร่างกายเกิดการเผาผลาญ เปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นไขมัน และช่วยลดการสะสมไขมันในส่วนอื่นได้เป็นอย่างดี!
ดื่มน้ำมะนาวทุกเช้า
นอกจากอาหารแล้ว น้ำก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ โดยแนะนำว่า ให้ดื่มน้ำอุ่นโดยใส่มะนาวฝานลงไปด้วยในตอนเช้าของทุกวัน การดื่มน้ำมะนาวแบบนี้ทุกเช้า จะช่วยดีท็อกซ์และเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น!
หันมาฝึกโยคะเป็นประจำ
โยคะไม่เพียงช่วยคลายกล้ามเนื้อ คลายอาการปวดเมื่อยเท่านั้นค่ะสาวๆ แต่โยคะยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นขา หรือแขนได้ดีอีกด้วย แถมโยคะบางท่ายังสามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้เราขับถ่ายได้เป็นปกติขึ้นอีกด้วยล่ะค่า
นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง
เป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลจริงๆ ค่ะ เพราะการอดนอนจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนั่นส่งผลให้เราอ้วนขึ้นได้! โดยการนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและควบคุมการสะสมไขมัน ส่งผลให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง!